คำถามมีอยู่ว่าพนักงานใช้วันลาพักร้อน (ที่ถูกต้องคือ “วันหยุดพักผ่อนประจำปี” นะครับไม่ใช่วันลา) หมดแล้วแต่มีธุระจำเป็นแต่อยากจะขอลาแบบ No work no pay จะทำได้ไหม ถ้าทำได้กฎหมายแรงงานให้ได้กี่วัน
ก็เลยเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังอย่างนี้ครับ
1.
บริษัทควรเขียนข้อบังคับการทำงานในเรื่องการลากิจให้ชัดเจนและแจ้งให้พนักงานทราบกติกาเงื่อนไขการลากิจให้เข้าใจตรงกันอย่างนี้ครับ
1.1
พนักงานมีสิทธิลากิจได้ปีละกี่วัน
(ตามกฎหมายแรงงานต้องไม่น้อยกว่าปีละ 3 วัน
แต่ถ้าบริษัทให้ลากิจมากกว่านี้ก็ได้เพราะเป็นคุณกับพนักงานมากกว่าที่กฎหมายกำหนด)
1.2
ระบุให้ชัดเจนว่าการลากิจนี้จะต้องเป็นการลาเพื่อไปทำกิจธุระที่จำเป็นต้องไปทำด้วยตัวเองไม่สามารถมอบหมายให้ใครไปทำแทนได้
เช่น การลากิจเพื่อไปรับปริญญา, ลากิจเพื่อบวชทดแทนคุณบิดามารดา,
ลากิจเพื่อไปแต่งงาน, ลากิจเพื่อดูแลบุพการีคู่สมรสหรือบุตรที่เจ็บป่วย, ลากิจเพื่อไปจัดการงานศพบุพการี
ฯลฯ
1.3
บริษัทจะไม่อนุญาตการลากิจที่ไม่เป็นไปตามข้อ
1.2 เช่น การลากิจเพื่อไปเที่ยว
1.4
การลากิจจะต้องลาล่วงหน้าอย่างน้อย....วัน และต้องได้รับการอนุมัติเสียก่อนถึงจะหยุดได้
2.
ถ้าหากพนักงานไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับการทำงานเรื่องลากิจตามข้อ
1 บริษัทจะถือว่าพนักงานละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยถูกตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรตามระเบียบการดำเนินการทางวินัย
และบริษัทจะไม่จ่ายค่าจ้าง/เงินเดือนในวันที่พนักงานละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรนั้นหรือ
No work no pay
3.
กรณีพนักงานใช้สิทธิลากิจจนหมดแล้วแต่มีความจำเป็นต้องไปทำธุระที่จำเป็นที่ไม่สามารถมอบหมายให้ใครไปทำแทนได้
ให้พนักงานยื่นขออนุญาตลากิจกับผู้บังคับบัญชาล่วงหน้าอย่างน้อย......วัน
และต้องได้รับการอนุมัติเสียก่อนถึงจะหยุดได้
โดยผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาตามเหตุผลและความจำเป็นเป็นครั้ง ๆ ไป โดยบริษัทจะถือว่าเป็นการลากิจโดยไม่รับค่าจ้าง/เงินเดือนหรือ
Leave
without pay
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็เชื่อว่าท่านจะเห็นความเหมือนและแตกต่างกันระหว่าง
No work
no pay กับ Leave without pay พร้อมทั้งคำตอบว่าควรจะให้หยุดได้กี่วันแล้วนะครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมกลับไปทบทวนระเบียบข้อบังคับการลากิจของบริษัทท่านดูว่าเขียนไว้ครบถ้วนดีแล้วหรือยังจะได้ลดปัญหาที่เล่ามาให้ฟังนี้ลงครับ
...........................