บริษัทแห่งหนึ่งจะออกหนังสือตักเตือนพนักงานเกี่ยวกับการขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหลายครั้งโดยมีลักษณะความผิดดังนี้ครับ
ครั้งที่ 1 พนักงานขาดงานไป
1 วันโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบเมื่อกลับมาทำงานวันรุ่งขึ้นก็ตอบคำถามหัวหน้าแบบบ่ายเบี่ยงว่ามีธุระนิดหน่อย
หัวหน้าก็เลยถือว่าเป็นการขาดงาน
ครั้งที่ 2 ถัดจากครั้งแรกมาไม่กี่วันก็โทรมาขอลาป่วย
1 วัน แต่หัวหน้าไปตรวจสอบแล้วปรากฎว่าไม่ได้ป่วยจริง
ไม่ได้อยู่ที่พัก
ครั้งที่ 3 หลังจากครั้งที่
2 ก็มีพฤติกรรมเหมือนครั้งที่ 1 ซ้ำอีก
คำถามคือหัวหน้าของพนักงานคนนี้ต้องการจะออกหนังสือตักเตือนโดยรวม
3
เรื่องนี้เข้าด้วยกันได้หรือไม่ ?
และควรทำยังไงดี ?
ก็ตอบได้อย่างนี้ครับ
1.
ความผิดคนละกรณีให้ทำหนังสือตักเตือนคนละใบ
ไม่ควรเอาไปไว้รวมกัน
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าความผิดครั้งที่ 1 และ 3 เป็นเรื่องเดียวกันโดยครั้งที่ 3 เป็นผลต่อเนื่องมาจากครั้งที่
1 ส่วนความผิดครั้งที่ 2 แม้จะดูว่าเป็นเรื่องการขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
แต่เป็นการแจ้งลาป่วยเท็จ ซึ่งลักษณะความผิดแตกต่างจากครั้งที่ 1 และ 3
2.
เมื่อแยกแยะประเภทความผิดได้อย่างนี้แล้วจึงต้องแยกใบเตือนทั้ง
3
กรณี ดังนี้
2.1
เมื่อพนักงานทำความผิดครั้งที่ 1 หัวหน้าก็ออกหนังสือตักเตือนโดยระบุเหตุผลว่าพนักงานละทิ้งหน้าที่ไป
1 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
และห้ามไม่ให้พนักงานทำความผิดอย่างนี้ซ้ำอีก
ถ้าพนักงานทำความผิดอย่างนี้ซ้ำอีกบริษัทจะมีบทลงโทษยังไงก็ระบุลงไปในหนังสือตักเตือนฉบับนี้
2.2
สมมุติว่าพนักงานขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรอย่างนี้และบริษัทก็ออกหนังสือตักเตือนตามข้อ
2.1
มาโดยมีการลงโทษไปตามที่แจ้งไว้แล้ว
จนกระทั่งถึงครั้งนี้บริษัทระบุว่าเป็นหนังสือตักเตือนครั้งสุดท้ายที่ห้ามไม่ให้พนักงานละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเช่นนี้อีก
ถ้าพนักงานยังฝ่าฝืนทำผิดแบบนี้ซ้ำอีก บริษัทจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ
ทั้งสิ้น
2.3
ถ้าหากพนักงานทำความผิดแบบเดียวกันนี้ซ้ำอีกในครั้งที่
3
อย่างนี้บริษัทสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยครับ
เพราะความผิดครั้งที่ 3 เป็นความผิดซ้ำคำเตือนจากครั้งที่ 1
ซึ่งบริษัทได้ออกหนังสือตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายเอาไว้แล้ว
2.4
ส่วนความผิดครั้งที่ 2 บริษัทต้องออกหนังสือตักเตือนอีกใบหนึ่งที่ไม่นำไปเตือนรวมกับครั้งที่1
เพราะความผิดครั้งที่ 2 มีสาเหตุมาจากการแจ้งลาป่วยเท็จบริษัทจึงถือว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ซึ่งจะแตกต่างจากความผิดครั้งที่ 1 และ 3 ที่ไม่ได้มีการแจ้งลาป่วยเท็จ
2.5
หนังสือตักเตือนความผิดครั้งที่ 2 ก็ต้องมีข้อความห้ามปรามตักเตือนไม่ให้พนักงานแจ้งลาป่วยเท็จอย่างนี้อีก
ถ้าทำผิดซ้ำคำเตือนในเรื่องนี้ (คือการแจ้งลาป่วยเท็จ) บริษัทจะลงโทษยังไงก็ใส่ลงไปในหนังสือตักเตือน
2.6
ถ้าบริษัทออกหนังสือตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วว่าถ้าพนักงานยังฝ่าฝืนแจ้งลาป่วยเท็จซ้ำอีกบริษัทจะเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยใด
ๆ ทั้งสิ้น ก็ปฏิบัติได้ตามนั้น
2.7
ความผิดครั้งที่ 1 2 และ
3 ซึ่งบริษัทออกหนังสือตักเตือนไปแล้วก็มีสิทธิ “ไม่จ่ายค่าจ้างเนื่องจากพนักงานละทิ้งหน้าที่โดยมีไม่เหตุผลอันสมควร”
หรือ “No work no pay” ได้ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่การหักค่าจ้าง
(หรือหลายบริษัทชอบใช้คำว่า “หักเงินเดือน”) นะครับ
เพราะเป็นไปตามหลักการจ้างงานว่าเมื่อลูกจ้างขาดงาน ไม่มาทำงานให้นายจ้างโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
นายจ้างก็มีสิทธิไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ขาดงานนั้นได้ แต่ไม่ใช่การหักเงินเดือน
(หรือหักค่าจ้าง) ครับ
จากที่เล่าข้างต้นพร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบมาทั้งหมดนี้เชื่อว่าท่านจะเข้าเรื่องเกี่ยวกับการออกหนังสือตักเตือนได้ชัดเจนมากขึ้นแล้วนะครับ