หลายบริษัทชอบเหมาจ่ายโอที เช่น คนขับรถผู้บริหารที่ต้องขับรถไปรับ-ส่งนาย ซึ่งต้องลงเวลาด้วยการเขียนเวลาเข้า-ออกงานแล้วก็เอาไปให้นายเซ็นชื่อรับรองว่าทำโอทีวันไหน เวลาใดบ้าง เพื่อส่งให้ทาง HR คำนวณค่าโอทีในแต่ละเดือน ซึ่งบางบริษัทก็จะบอกว่าเป็นงานเอกสารที่เยอะมากและวุ่นวาย
ก็เลยตัดปัญหาเรื่องเอกสาร
(แต่จะทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต) คือ ใช้วิธี “เหมาจ่ายโอที”
เช่น
ทำสัญญาเหมาจ่ายค่าโอทีให้กับคนขับรถโดยดูจากข้อมูลในปีที่ผ่านมาว่าเฉลี่ยเท่าไหร่ต่อเดือนแล้วก็นำมากำหนดเป็นอัตราโอทีเหมาจ่าย
เช่น เดือนละ 6,000
บาท แล้วให้คนขับรถเซ็นชื่อยินดีรับค่าโอทีเหมาจ่ายไว้เป็นหลักฐาน
ก็เลยเป็นที่มาของหัวเรื่องข้างต้นว่าเขาว่า..บริษัทสามารถทำสัญญากับพนักงานโดยให้โอทีแบบเหมาจ่ายได้
เพราะบริษัทอื่น ๆ เขาก็ทำกัน
จริงหรือ
??
ตอบตรงนี้เลยว่า
“ไม่จริง” ครับ
เพราะตามกฎหมายแรงงานไม่มีมาตราไหนที่กำหนดให้นายจ้างสามารถจ่ายโอทีในลักษณะเหมาจ่ายให้กับลูกจ้าง
และยังกำหนดวิธีการจ่ายโอทีไว้อย่างชัดเจนคือ
มาตรา 61
(การจ่ายค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง)
มาตรา 62
(การจ่ายค่าทำงานในวันหยุด 1 เท่ากรณีเป็นลูกจ้างรายเดือน และ 2
เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง กรณีเป็นลูกจ้างรายวัน)
มาตรา 63 (การจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุด
3 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง)
โดยมีคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับบริษัทที่เคยใช้วิธีจ่ายโอทีให้พนักงานแบบเหมาจ่ายไว้ดังนี้
ฎ.1390/2537
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
โจทก์เป็นพนักงานขับรถของจำเลย
มีเวลาการทำงานแน่นอนตั้งแต่ 8.00-17.00 น.
ระยะเวลาที่นอกจากเวลาปกตินี้ถือว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา
โจทก์มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
“การที่นายจ้างทำสัญญางดเว้นไม่จ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างตามกฎหมายดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะ
โจทก์จึงมีสิทธิได้ค่าล่วงเวลา”
จากแนวคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวจึงสรุปได้ว่าโอทีเหมาจ่ายทำไม่ได้เพราะขัดกฎหมายแรงงานครับ