วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565

การขึ้นเงินเดือนประจำปี..ทำไงดี ?

           นี่ก็เข้าช่วงปลายปีแล้วหลายบริษัทก็คงต้องนำผลจากการประเมินผลการปฏิบัติงานมาใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อขึ้นเงินเดือนประจำปี

            ก็เลยขอเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผมเคยทำตามที่ผมเคยปฏิบัติตอนที่ทำงานประจำเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจตามนี้ครับ

1.      เตรียมข้อมูล : เกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นเงินเดือนประจำปีของทั้งตลาดภาพรวมและคู่แข่งมาหารือร่วมกับฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดว่าปีนี้บริษัทจะขึ้นเงินเดือนประจำปีกี่เปอร์เซ็นต์ (ผมคาดว่าปีนี้ค่าเฉลี่ยการขึ้นเงินเดือนประจำปีของตลาดก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5% เท่าปีที่ผ่านมา)

2.      คำนวณงบประมาณขึ้นเงินเดือน : เมื่อได้รับอนุมัติจากฝ่ายบริหารว่าปีนี้บริษัทจะขึ้นเงินเดือนประจำปีในค่าเฉลี่ยกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว HR ก็จะมาคำนวณงบประมาณการขึ้นเงินเดือนประจำปีของแต่ฝ่าย

3.      จัดสรรงบประมาณขึ้นเงินเดือนไปยังทุกหน่วยงาน : จัดสรรงบประมาณขึ้นเงินเดือนประจำปีไปให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานได้ทราบและให้พิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนให้กับลูกน้องของตัวเองตามผลการประเมิน

4.      แจ้งวิธีการบริหารจัดการงบประมาณ : การจัดสรรงบประมาณของแต่ละฝ่ายนั้นจะแยกงบประมาณขึ้นเงินเดือนตาม Job Grade เช่น งบประมาณของ Officer, Supervisor, หัวหน้าแผนก, ผู้ช่วยผู้จัดการ, ผู้จัดการ ฯลฯ จะไม่นำมารวมเป็นงบประมาณก้อนเดียวกัน

เพราะถ้าขืนเอามารวมเป็นก้อนใหญ่ก้อนเดียวทั้งฝ่ายแล้วตัดเกรดจากผลการประเมินรวมกันก็จะเกิดปัญหาว่าหัวหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่าและเงินเดือนสูงก็จะกินงบประมาณของลูกน้อง

เนื่องจากฐานเงินเดือนโตกว่าลูกน้อง จึงต้องแยกออกจากกันและพิจารณางบประมาณกันในตำแหน่งที่อยู่ใน Job Grade ของตัวเองโดยการแจ้งให้ทุกหน่วยงานทราบหลักปฏิบัติดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผู้ใหญ่กินเงินเด็ก

อาจจะมีคำถามว่าแล้วถ้าหน่วยงานนั้นมี Supervisor เพียงคนเดียวแล้ว Supervisor ก็มีผลงานดีเยี่ยมหรือทำงานทะลุเป้า KPI ได้รับการประเมินเกรด A แต่งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจะได้เพียงค่าเฉลี่ยซึ่งก็มักจะเป็นเกรด C จะทำยังไง

คำตอบคือ Supervisor คนนี้จะได้รับการขึ้นเงินเดือนเบื้องต้นคือค่าเฉลี่ยเสียก่อน แล้วค่อยมาพิจารณาดูว่าหลังการจัดสรรงบประมาณทั้งฝ่ายแล้วยังมีงบเหลือพอจะมาใส่ให้ Supervisor คนนี้เพิ่มได้หรือไม่

ถ้าไม่มีงบเหลือ หรือใส่แล้วยังไม่เพียงพอผู้บริหารในหน่วยงานนี้ก็ต้องทำเรื่องขอไปที่กรรมการผู้จัดการเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ Supervisor ทุกคนนะครับ และผู้บริหารในหน่วยงานนั้นจะต้องพิสูจน์ (โดยมีข้อมูลที่สนับสนุนอย่างเพียงพอเพื่อให้ฝ่ายบริหารยอมรับ) ได้ว่าผลงานของ Supervisor คนนี้เป็นที่ยอมรับและบริษัทต้องการจะรักษาเอาไว้จริง ๆ

ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติก็ต้องพร้อมรับความเสี่ยงที่ Supervisor คนเก่งคนนี้ก็จะลาออกไป

            ส่วนถ้าจะถามว่าทำยังไงให้ยุติธรรมไม่ให้มี Bias ก็ตอบได้ว่าเรื่องของคนประเมินนั้นคงห้าม Bias ได้ยาก อยู่ที่ว่าผู้ประเมินจะมี Bias มากหรือน้อยหรือมีความเที่ยงตรงแค่ไหนเท่านั้นแหละครับ เพราะต่อให้องค์กรมีระบบการประเมินที่ดียังไง แต่สุดท้ายคนประเมินก็ยังจะเข้ามาแทรกแซงระบบได้อยู่เสมอ (ถ้าคิดอยากจะแทรกแซง) แหละครับ

            ผมเชื่อว่าถ้าผู้ประเมินขาดความเที่ยงตรงและเป็นธรรมในที่สุดกฎแห่งกรรมก็จะลงโทษเขาเอง นั่นคือคนที่ทำงานดีมีฝีมือก็จะขอย้ายไปหน่วยงานอื่นหรือลาออกไปในที่สุด แต่ถ้าผู้ประเมินมีความเที่ยงตรงและจัดสรรงบประมาณขึ้นเงินเดือนได้อย่างสอดคล้องกับผลงานของลูกน้องแต่ละคน หัวหน้าคนนั้นก็จะยังรักษาลูกน้องมือดีเอาไว้ได้ครับ