ปัจจุบันในหลายองค์กรก็จะให้ผู้สมัครงานทดสอบข้อเขียนหรือปฏิบัติเพื่อดูว่าใครจะมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการเบื้องต้นสำหรับตำแหน่งงานนั้น ๆ หรือไม่
เช่น ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่แรงงานสัมพันธ์ในฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องการคนที่มีความรู้กฎหมายแรงงาน
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ควรจะออกแบบทดสอบเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานมาให้ผู้สมัครตอบภายในเวลาที่กำหนดแล้วดูว่าผู้สมัครคนไหนมีคะแนนการทดสอบผ่านเกณฑ์ก็จะผ่านเข้ารอบไปเพื่อสัมภาษณ์ต่อ
หรือฝ่ายซ่อมบำรุงต้องการช่างที่สามารถใช้ซอฟแวร์
Excel ได้เพื่อจะได้ทำรายงานผลการซ่อมบำรุงทุกเดือน
ก็ทดสอบความสามารถในการใช้ Excel เพื่อดูว่าผู้สมัครคนไหนสามารถใช้
Excel ทำรายงานตามที่ฝ่ายซ่อมบำรุงต้องการบ้าง
ถ้าใครผ่านเกณฑ์ก็จะได้เข้าไปสัมภาษณ์ต่อ เป็นต้น
การทดสอบข้อเขียนหรือปฏิบัติสำหรับผู้สมัครงานที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้นจะต้องเป็นหน้าที่ของ
Line Manager ที่จะต้องออกแบบทดสอบผู้สมัครงาน
ไม่ควรให้ HR เป็นคนออกแบบทดสอบ !!
เพราะ HR ไม่ใช่เจ้าของงาน
ไม่ได้ทำงานในหน่วยงานนั้น ๆ จะไปให้เขาออกแบบทดสอบแทนได้ยังไงล่ะครับ
แต่ถ้าเป็นตำแหน่งงานในฝ่าย HR ฝ่าย HR ถึงจะเป็นคนออกแบบทดสอบเพราะเป็นเจ้าของงานโดยตรง
อีกประการหนึ่งที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดก็คือ....
องค์กรของท่านไม่ควรมีแบบทดสอบแบบ
“ครอบจักรวาล” นะครับ
เพราะแบบทดสอบแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ทำให้เสียเวลาเปล่าทั้งผู้สมัครและองค์กรที่เป็นคนออกข้อสอบ !!
อะไรคือแบบทดสอบแบบครอบจักรวาล
?
หลายองค์กรยังให้ผู้สมัครงานทำแบบทดสอบสำเร็จรูป
3 เรื่อง เช่น
ทดสอบคณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ความถนัดเชิงช่าง
และมีเกณฑ์กำหนดเอาไว้ว่าถ้าผู้สมัครคนไหนทดสอบแล้วมีคะแนนต่ำกว่า เกณฑ์ที่กำหนดในวิชาใดวิชาหนึ่งก็จะไม่ได้ไปสอบสัมภาษณ์
!?
แล้วก็ใช้แบบทดสอบนี้กับผู้สมัครทุกตำแหน่งงาน
เช่น ใครมาสมัครตำแหน่งนิติกร หรือเจ้าหน้าที่ต้อนรับลูกค้า หรือเจ้าหน้าที่บุคคล
ฯลฯ ก็ต้องทดสอบ 3 วิชานี้ทั้งหมดและใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน !!
อย่างนี้แหละครับที่ผมเรียกว่าแบบทดสอบ
“ครอบจักรวาล”
คำถามถือคนที่จะมาทำงานกับบริษัทในตำแหน่งนิติกรไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเลขเลย
แต่เขาจำเป็นจะต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย แล้วบริษัทจะให้เขาทดสอบเลขไปเพื่อ....
หรือคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บุคคลไม่ได้มาเป็นช่างสักหน่อย
จะให้เขาทดสอบความถนัดเชิงช่างเพื่อ....
พอถามไปว่าทำไมถึงยังมีแบบทดสอบอย่างนี้อยู่
คำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่คือ....
“ก็เราเคยทำมาแบบนี้
และทำมาหลายปีแล้ว....”
ตรงนี้คงจะต้องตอบคำถามกับตัวเองด้วยเหตุและผลแล้วล่ะครับว่า
“เราทำแบบเดิมไปเพื่ออะไร” หรือ “ทำไปแล้วจะเกิดประโยชน์อะไรหรือไม่”
แต่ยังดันทุรังทำต่อไปนี่มันเสียเวลาเสียงบประมาณทั้งการออกแบบทดสอบ,
การตรวจข้อสอบ, การพิมพ์แบบทดสอบ ฯลฯ จนกลายเป็นพิธีกรรมที่ทำต่อเนื่องกันมาจากรุ่นสู่รุ่นแบบสูญเปล่าแบบนี้เพื่ออะไร
แล้วถึงเวลาจะคิดหาทางปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้กระบวนการในการคัดเลือกคนที่ใช่และมีคุณภาพเข้ามาร่วมงานแล้วหรือยัง
?
หวังว่าท่านคงได้ข้อคิดในเรื่องนี้เพื่อนำไปใช้คัดเลือกคนที่ใช่และมีคุณภาพมาร่วมงานแล้วนะครับ