เรื่องมีอยู่ว่าบริษัทเคยออกหนังสือตักเตือนพนักงานเรื่องที่พนักงานขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร(แจ้งลาป่วยเท็จ) เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน
ต่อมาวันที่ 5 กรกฎาคมผู้บังคับบัญชาสั่งให้พนักงานคนนี้ไปทำงานแทนเพื่อนที่ประสบอุบัติเหตุต้อง
Admit ในโรงพยาบาล 7 วัน
แต่พนักงานคนนี้ก็ไม่ยอมไปทำงานตามที่สั่งและยังโต้เถียงกับผู้บังคับบัญชาว่าที่ไม่ไปทำงานตามสั่งเพราะตัวเองมีงานที่รับผิดชอบอยู่
ก็เลยถูกหนังสือตักเตือนฉบับที่ 2 ในเรื่องการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาและในหนังสือตักเตือนฉบับนี้ก็อ้างถึงก่อนหน้านี้ก็เคยถูกเตือนเรื่องขาดความรับผิดชอบในงานมาทำงานสายไปแล้วเมื่อวันที่
3 มิถุนายน
โดยหนังสือตักเตือนฉบับนี้แจ้งว่าเป็นการตักเตือนครั้งสุดท้ายถ้าพนักงานยังไม่รับผิดชอบงานให้ดีขึ้น
ครั้งต่อไปบริษัทจะเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาวันที่ 15 สิงหาคมพนักงานคนนี้ถูกลูกค้าแจ้งมาว่าพูดจาไม่สุภาพ
บริษัทก็เลยจะแจ้งเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นโดยอ้างว่าเป็นความผิดร้ายแรงตามมาตรา
119 ข้อ 4 คือ “ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม
และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว....”
จากเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดถามว่าบริษัทจะแจ้งเลิกจ้างด้วยสาเหตุข้อ
4 ตามมาตรา 119 ข้างต้นได้หรือไม่ ?
คำตอบคือ....
ถ้าเลิกจ้างก็ยังต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน
(ตามมาตรา 118) ครับ
เพราะอะไร ?
ก็พนักงานเกเร ขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา กิริยาวาจาไม่สุภาพกับลูกค้าจริง ๆ นี่นา
บริษัทก็ออกหนังสือตักเตือนไปแล้ว
และเตือนชัดเจนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วว่าถ้ายังทำงานมีปัญหาจะโดนไล่ออกไม่ได้รับค่าชดเชย
พนักงานก็รับทราบแล้วนี่
ทำไมยังต้องมาจ่ายค่าชดเชยให้อีกล่ะ ?
คำตอบคือการเลิกจ้างตามข้อ
4
มาตรา 119 ข้างต้นจะต้องเป็นการทำความผิดซ้ำคำเตือนในเรื่องเดิมครับ
จะเห็นได้ว่าความผิดที่ถูกเตือนครั้งแรกเป็นเรื่องการขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ครั้งต่อมาเตือนเรื่องการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
และในครั้งนี้เป็นเรื่องการพูดจากับลูกค้าไม่ดี
ความผิดทั้ง
3
ครั้งเป็นความผิดคนละเรื่องหรือความผิดคนละกระทงกันครับ
ถ้าบริษัทระบุชัดเจนในหนังสือตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าห้ามไม่ให้พนักงานคนนี้ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาในกรณีสั่งให้ย้ายไปทำหน้าที่แทนเพื่อนพนักงานในแผนก
ถ้าฝ่าฝืนเรื่องนี้ซ้ำอีกบริษัทจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น
แล้วครั้งต่อไปเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งให้ไปทำงานแทนเพื่อนในแผนก
แต่พนักงานคนนี้ก็ยังขัดคำสั่ง ฝ่าฝืนไม่ยอมย้ายไปทำงานตามคำสั่งซ้ำอีก
อย่างงี้แหละครับที่บริษัทสามารถจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าใด
ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าพนักงานฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมของนายจ้าง
ตามข้อ 4
มาตรา 119 ซึ่งมักจะเรียกว่าเป็นการทำผิดซ้ำคำเตือน
(ในความผิดเดิมที่เคยเตือนไปแล้ว)
จึงสรุปได้ว่าถ้าเป็นความผิดคนละกระทงหรือคนละเรื่องกัน
บริษัทจะจับเอามารวมกันแล้วแจ้งเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยไม่ได้ครับ
หวังว่าตัวอย่างที่เล่ามาทั้งหมดนี้จะทำให้คนที่เกี่ยวข้องเข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนแล้วและไม่ผิดพลาดในเรื่องนี้แล้วนะครับ