ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนเรื่อง MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) เรื่องมือค้นหาบุคลิกภาพของคนโดยเล่าเอาไว้ว่าเครื่องมือ MBTI นี้มาจากสองแม่ลูกคือ Katharine Cook Briggs และลูกสาว Isabel Briggs Myers ได้ศึกษางานเขียนที่ชื่อว่า “Personality Type” ของนักจิตวิทยาชื่อดังชาวสวิสคือ คาร์ล ยุง (Carl Gustav Jung) ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1962 (พ.ศ.2505)
โดยตัวชี้วัดบุคลิกลักษณะคนของ Myers Briggs จะแบ่งคนโดยใช้ตัวอักษร
8 ตัวที่แสดงความแตกต่างกันของคนคือ E I - S N - T F
- J P
มาครั้งนี้ผมก็เลยอยากจะเล่าถึงเรื่องของคาร์ล ยุงเพื่อท่านที่สนใจจะได้ทราบว่าเขาเป็นใครและมีผลงานอะไรมาบ้าง
คาร์ล
ยุง (Carl
Gustav Jung) เกิดเมื่อปีค.ศ.1875-1961 (พ.ศ.2418-2504)
ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรียนจบคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยบาเซิล
แล้วทำงานเป็นแพทย์ด้านจิตเวชที่ซูริค เคยทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันดีคือซิกมัน
ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ในช่วงปีค.ศ.1909-1913
ทั้งสองท่านทำงานและแบ่งปันความรู้ร่วมกันแม้ว่ายุงจะไม่เห็นด้วยกับฟรอยด์ในเรื่องที่ฟรอยด์เชื่อว่าจิตไร้สำนึกของคนประกอบด้วยความปรารถนาที่คนต้องอดกลั้นเอาไว้เช่นความต้องการทางเพศ
แต่ยุงเชื่อว่ายังมีแรงจูงใจอื่น
ๆ ของคนที่นอกเหนือไปจากความต้องการทางเพศและไม่เห็นด้วยกับเรื่องของปมโอดิปุส (Oedipus Complex) ที่ว่าด้วยวัยของเด็กผู้ชายจะติดแม่มากกว่าพ่อ
หรือวัยของเด็กหญิงที่มักจะติดพ่อมากกว่าติดแม่ของฟรอยด์
เรื่องของปมโอดิปุสบางท่านอาจจะเคยได้ยินที่มาบ้างแล้ว
เป็นเรื่องของโศกนาฎกรรมที่น่าเศร้าและให้ข้อคิดเกี่ยวกับการเชื่อหมอดูมากจนเกินไปจนกระทั่งเกิดเรื่องราวน่าสลดใจตามมาและเคยถูกนำมาสร้างเป็นละครเวทีตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้
ซึ่งว่าไปแล้วก็มีตำนานมาจากเทวดากรีก (ที่ผมเคยบอกแล้วว่าผมชอบอ่านเรื่องราวของเทวดากรีกมาตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน)
คือโอดิปุสเป็นลูกของท้าวไลอุส (Laius) เจ้าเมืองธีบส์ กับพระนางโจคัสตรา
(Jocasta) แต่ถูกหมอดูทำนายไว้ว่าเมื่อมีลูกชายก็จะต้องถูกลูกของตัวเองฆ่า
เมื่อมีลูกชาย
(ซึ่งก็คือโอดิปุส) ท้าวไลอุสก็เลยเอาเข็มกลัดแทงเท้าทั้งสองข้างของลูกชายและให้คนเอาไปทิ้งไว้ที่บนเขาเพื่อให้สัตว์มาแทะกินเป็นอาหาร
(ใจร้ายขนาด....จริง ๆ นะครับ) แต่ก็ตามประสาจักร ๆ วงศ์ ๆ แหละครับ
ทหารใจอ่อนก็เลยเอาไปให้พระราชาโพลีบุส (Polybus) แห่งเมืองโครินธ์ (Corinth)
เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และรับเป็นลูกบุญธรรมเนื่องจากแกไม่มีลูก
แต่โอดิปุสเข้าใจมาโดยตลอดว่าท้าวโพลีบุสเป็นพ่อแท้ ๆ ของตน
เพราะท้าวโพลีบุสก็ไม่เคยบอกความจริงนี้กับลูกบุญธรรม
วันหนึ่งก็มีหมอดู
(อีกแล้ว) มาพยากรณ์ว่าโอดิปุสจะต้องทำปิตุฆาตคือฆ่าพ่อของตัวเอง โอดิปุสก็ตกใจเลยหนีออกจากเมืองโครินธ์เพราะคิดว่าจะได้พ้นคำทำนายนี้
ระหว่างทางมีรถม้าของชายชราคนหนึ่งพร้อมบริวารขวางทางอยู่
โอดิปุสบอกให้หลีกทางแต่ชายชราก็ไม่ยอมหลีกทางให้จนกระทั่งเกิดการวิวาท
(ดูแล้วเหมือนดราม่าจราจรบนท้องถนนในบ้านเราไหมครับ) แล้วโอดิปุสก็ฆ่าชายชราคนนั้นตาย
ลองทายสิครับว่าชายชราคนนั้นคือใคร
?
ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบ..ชายชราคนนั้นก็คือท้าวไลอุสนั่นเอง
หลังจากนั้นระหว่างทางโอดิปุสก็เจอกับตัวสฟิงซ์
(Sphinx)
ที่เป็นภัยร้ายแรงของชาวเมืองธีบส์แล้วสามารถตอบปัญหาของสฟิงซ์ได้จนสฟิงซ์ฆ่าตัวตายไป
เขาจึงได้ครองเมืองธีบส์ต่อจากท้าวไลอุส และได้พระนางโจคัสตราซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ
ของเขาเป็นมเหสีโดยไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงเลยแม้แต่น้อย
ต่อมาภายหลังโอดิปุสได้มารู้ความจริงว่าตัวเองทำปิตุฆาตและได้มารดาตัวเองเป็นภรรยาก็แทบเป็นบ้า
ถึงกับควักลูกตาของตัวเองออกเพื่อต้องการไถ่โทษความผิด
จากตำนานเรื่องนี้แหละครับก็เลยเป็นที่มาของปมโอดิปุสที่ซิกมัน
ฟรอยด์นำมาตั้งชื่อเกี่ยวกับปมที่เด็กผู้ชายไม่ชอบพ่อแต่จะติดแม่มากกว่า
อ้าว....พูดเรื่องปมติดแม่ของฟรอยด์ไปนิดเดียวแต่ไปฝอยเรื่องตำนานเทวดากรีกซะยาวจนมาแย่งซีนคาร์ล
ยุงไปซะนี่ แต่ก็เชื่อว่าท่านที่อ่านจะสนุกและได้ความรู้ไปกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้นะครับ
ผมขอกลับมาพูดเรื่องของคาร์ล
ยุงต่อดีกว่า
คาร์ล
ยุงได้ชื่อว่าเป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในบรรดานักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย
เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์สูง จิตใจดีและมีบุคลิกภาพที่น่าประทับใจ
แนวคิดด้านจิตวิทยาของคาร์ล
ยุงซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือเรื่องของทฤษฎีเกี่ยวกับปัจเจกบุคคลที่แบ่งบุคลิกลักษณะของคนออกเป็น
Introvert
คือคนเก็บตัวไม่ชอบเข้าสังคม กับ Extrovert
คือคนที่เปิดเผยชอบเข้าสังคม
คาร์ล ยุงพัฒนาทฤษฎีของเขาเองเรียกว่า “Jungian” หรือจิตวิทยาวิเคราะห์ในปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) และเขียนหนังสือ “Personality Type” ตีพิมพ์ในปีค.ศ.1921 (พ.ศ.2464) ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็เป็นที่มาของ Katharine Cook Briggs และลูกสาว Isabel Briggs Myers นำมาคิดพัฒนาต่อยอดจนกลายมาเป็นแบบทดสอบที่เรียกว่า MBTI ในเวลาต่อมาครับ
...........................