ผมได้รับคำถามว่า “ถ้าหากบริษัทต้องการจะเลิกจ้างพนักงานด้วยวาจาได้หรือไม่?”
ได้ยินคำถามนี้ก็อดสงสัยไม่ได้จึงต้องถามกลับไปว่า
“แล้วทำไมถึงไม่อยากแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่ะครับ”
คำตอบคือ
“สงสัยอยากจะรู้เฉย ๆ”
ได้ยินคำตอบแล้วก็โอเคครับ
ถ้าอยากรู้ก็ต้องเริ่มต้นอย่างงี้ครับ....
มาตรา 17 ของกฎหมายแรงงานบอกไว้ว่า
“....ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ
ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด
เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้
แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน....”
ถ้าอ่านตามนี้จะเห็นว่าถ้านายจ้างต้องการจะเลิกจ้างก็ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ลูกจ้างทราบ
แต่มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่
ฎ.6701/2549
บอกไว้ว่า “....ในการบอกเลิกสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดเวลาจ้างไว้นั้นมีบัญญัติเป็นหลักทั่วไปไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
บรรพ 3 ลักษณะ 6 มาตรา 582
(ปพพ.582 “….“ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กำหนดไว้ในสัญญาว่า
จะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้า
ในเมื่อถึง หรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง
เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทำได้
แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน”)
มิได้กำหนดเอาไว้ว่าการบอกเลิกจ้างจะต้องทำเป็นหนังสือ
ดังนั้นการบอกเลิกจ้างจึงอาจจะทำเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาก็ได้
ส่วนที่บัญญัติไว้ในมาตรา 17 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฯ ว่าในกรณีสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา
นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายนั้นทราบ
ก็ไม่ได้ห้ามเด็ดขาดว่าห้ามมิให้นายจ้างหรือลูกจ้างบอกเลิกสัญญาจ้างด้วยวาจา
เพียงแต่ให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบในเมื่อถึง
หรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่ง
เพื่อให้เป็นผลการเลิกสัญญาเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าเท่านั้นโดยอาจจะบอกกล่าวเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาก็ได้
หากบังคับให้ต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือเท่านั้น
อาจมีผลร้ายต่อการทำงานของลูกจ้างกับนายจ้างอื่นใดในอนาคตได้”
จึงเป็นข้อสรุปว่านายจ้างอาจจะแจ้งเลิกจ้างด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้!
แต่ความเห็นส่วนตัวของผม
เห็นว่าควรแจ้งเลิกจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนเลยจะดีกว่า จะได้มีหลักฐาน
และมีแสดงความเป็นมืออาชีพของฝ่ายบริหารทั้งยังไม่ต้องไปเสียเวลานำสืบพยานให้วุ่นวายภายหลังในกรณีที่ต้องไปศาลแรงงานอีกด้วย
หวังว่าคงจะตอบข้อสงสัยข้างต้นทั้งหมดแล้วนะครับ
..............................