ยังมีหัวหน้าอีกไม่น้อยที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจกับลูกน้องที่มีพฤติกรรมทำนองนี้....
-
มาสายอยู่เสมอ
-
ขาดงานบ่อย ๆ โดยอ้างว่าป่วย แต่ป่วยไม่จริง
บางครั้งก็รู้ว่าลูกน้องลาป่วยเพราะเมื่อคืนไปกินเหล้าจนถึงตีสองตอนเช้าเลยแฮงค์มาทำงานไม่ไหว
-
ชอบฝ่าฝืนกฎระเบียบหลักเกณฑ์อยู่เรื่อย ๆ
-
รับเดินโพยหวยในบริษัท
-
มีพฤติกรรมส่อทุจริต เช่น
ไปทำงานนอกบริษัทแต่เบิกค่าแท๊กซี่ในอัตราไม่สมเหตุสมผลทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ขึ้นแท๊กซี่
-
เล่นโซเชียลหรือขายของออนไลน์ในเวลางานทุกครั้งที่มีเวลาว่าง
-
ประมาทสะเพร่า งานผิดพลาดเป็นประจำ
-
ชอบลาพักร้อนในช่วงที่มีงานด่วนงานเร่งมีโหลดงานเยอะในขณะที่ทุกคนต้องช่วยกันทำงานหัวฟู
แต่หัวหน้าก็ยังอนุญาตให้ลาพักร้อนไป
-
ขึ้นเงินเดือนให้คนไม่ทำงานกับคนทำงานดีเท่า
ๆ กัน
-
ส่งเสริมหรือให้สิทธิพิเศษกับลูกน้องที่ประจบสอพลอแต่ไม่ค่อยจะทำงาน
แล้วไปกดดันไล่บี้ลูกน้องที่ตั้งใจทำงานแต่ประจบไม่เป็น
-
ฯลฯ
ถามว่าถ้าหัวหน้ารู้อยู่แก่ใจว่าลูกน้องทำตัวมีปัญหาอย่างนี้แล้วก็ยังไม่ทำอะไรจะเกิดอะไรขึ้น?
จะมีลูกน้องบางส่วนที่เซ็งแล้วก็มองว่าหัวหน้าบ่อมิไก๊ไม่มีน้ำยาไม่กล้าทำอะไร
บางส่วนก็จะเริ่มเอาอย่างเพื่อนที่ทำตัวไม่ดีบ้าง
เพราะเห็นว่าทีเพื่อนยังทำได้ฉันก็ทำได้มั่งสิ หรือใช้ Me too Model หรือลูกน้องก็จะเริ่มสะสมอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้ทุกวัน
ฝรั่งจะมีคำ
ๆ หนึ่งคือ Carrot
& Sticks หมายถึงหัวหน้าจะต้องรู้จักการให้รางวัลและลงโทษลูกน้อง!
หรือแปลเป็นไทยว่าหัวหน้าควรจะต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ
หัวหน้าต้องรู้จักการให้รางวัลกับคนทำงานดีมีฝีมือ
และลงโทษคนที่ทำงานไม่ดีหรือมีพฤติกรรมที่ก่อปัญหาในทีมงาน!
ต้องกล้าที่จะว่ากล่าวตักเตือนเมื่อลูกน้องมีพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่เหมาะสม
ซึ่งอาจรวมไปถึงต้องให้ลูกน้องออกไปจากองค์กรถ้าหากพฤติกรรมนั้นเป็นความผิดร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อตัวบุคคลหรือต่อองค์กร
ที่พูดมานี้ก็ไม่ได้ต้องการให้ท่านเป็นหัวหน้าใจร้ายที่คอยจ้องแต่จะเล่นงานลูกน้องนะครับ
เพราะคนที่เป็นหัวหน้าจะต้องมีตาที่มีแวว
สามารถมองออกและแยกแยะได้ว่าลูกน้องคนไหนมีพฤติกรรมปกติไม่ปกติ
ลูกน้องคนไหนทำงานดีจริงหรือเอาแต่ประจบสอพลอไม่ทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน
ถ้าหัวหน้าไม่สามารถแยกแยะได้
หรือแยกแยะได้แต่ไม่กล้าแก้ปัญหาลูกน้องก็จะเสื่อมศรัทธาแล้วก็จะเอาเรื่องของหัวหน้าไปเม้าท์กันอย่างน้อยวันละ
3 รอบ เช้า-กลางวัน-เย็น
นี่ยังไม่รวมการเม้าท์กันในไลน์กลุ่มของลูกน้องอีกเป็นของแถมครับ
5555
ที่ร้ายไปกว่านั้นคือถ้าหัวหน้าของหัวหน้าคนนี้รู้แล้วเห็นแล้วก็ยังเพิกเฉยไม่เรียกหัวหน้าคนนี้มาคุยให้
Take
action จัดการกับลูกน้องนอกแถว
ก็คงเป็นเวรกรรมของหน่วยงานนี้และบริษัทนี้แล้วล่ะครับ
รวมทั้งต้องมองไปถึงวุฒิภาวะและ
Leadership
ของผู้บริหารระดับสูงด้วยเหมือนกันที่ทำตัวเป็นจ่าเฉยแบบเดียวกับลูกน้องแล้วยังไม่คิดจะเข้าไปแก้ปัญหาปล่อยให้ปัญหานี้สะสมเป็นไฟสุมขอนไปเรื่อย
ๆ
ผลก็คือคนดีมีฝีมือก็จะตีจากเพราะทนอยู่กับระบบจ่าเฉยไม่ได้
ถามว่าองค์กรจ่าเฉยแบบนี้จะอยู่ได้ไหม
ก็ตอบได้ว่าคงอยู่ได้แบบเฉย ๆ ไปวัน ๆ
ด้วยแรงเฉื่อยไปจนถึงจุดหนึ่งก็คงต้องล้มหายตายจากไปแบบเฉย ๆ ในที่สุดแหละครับ
…………………………..