เมื่อ 52 ปีก่อนคริสตกาล จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นกงสุลแห่งโรมซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งทางการทหารและการเมืองสูงสุดของโรมันคู่กับปอมปีย์ (Pompeius Magnus) ที่ก็เป็นกงสุลเหมือนกันและต่างฝ่ายต่างก็หวังจะชิงความมีอำนาจสูงสุดด้วยกันทั้งคู่ เปรียบไปก็เหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน
ซีซาร์นำกองทัพโรมันอันเกรียงไกร
60,000
นายไปรบกับพวกกอล (Gaul) ซึ่งมีที่มั่นอยู่ที่เมืองอลิเชีย
(Alesia) ปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี การสู้รบครั้งนี้ดุเดือดรุนแรงแต่ด้วยการวางแผนการรบที่เข้าขั้นอัจฉริยะของซีซาร์จึงทำให้สามารถพิชิตพวกกอลได้ในที่สุดแถมยังขยายดินแดนข้ามไปถึงเกาะบริเตนคือประเทศอังกฤษในปัจจุบัน
เรียกว่าชีซาร์ได้รับความนิยมชื่นชอบจากประชาชนชาวโรมันมากชื่อเสียงของซีซาร์ขจรขจายไปถึงกรุงโรมที่ปอมปีย์รักษาการผู้นำอยู่ในขณะนั้น
ซีซาร์จึงถูกปอมปีย์สกัดดาวรุ่งด้วยการกล่าวหาเขาต่อสภาสูง
(Senate)
ในโรมว่าเขาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและออกคำสั่งให้ซีซาร์กลับกรุงโรมเพื่อมาแก้คดีความ
คุ้น
ๆ
ไหมครับกับการเมืองทำนองนี้ที่มีมากว่าสองพันปีจนกระทั่งถึงยุคนี้ก็ยังมีการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีทำนองนี้อยู่เหมือนเดิม
ซีซาร์รู้ตัวดีว่าตัวเองถูกเล่นงานแน่นอน
ถ้ากลับเข้ากรุงโรมตามคำสั่งก็มีหวังติดคุกหัวโตหรือเผลอ ๆ อาจถูกประหารชีวิตเพราะปอมปีย์แกล็อบบี้สภาสูงเอาไว้หมดแล้ว
ซีซาร์ก็เดินทัพมาถึงริมฝั่งแม่น้ำรูบิคอนซึ่งเป็นแม่น้ำตื้นสายเล็ก
ๆ ก่อนจะเข้ากรุงโรม มีกฎหมายของโรมันว่าห้ามนำกองทัพข้ามแม่น้ำรูบิคอนเข้ากรุงโรม
ถ้าใครทำเช่นนั้นจะถือว่าเป็นกบฎ!
ตรงนี้แหละครับที่ซีซาร์ตัดสินใจนำทัพข้ามแม่น้ำรูบิคอนแห่งนี้แล้วบุกเข้ายึดกรุงโรม
ในขณะที่เมื่อปอมปีย์ทราบข่าวการเดินทัพข้ามแม่น้ำรูบิคอนของซีซาร์
แกก็หนีตายออกจากโรมไปตั้งหลักที่ประเทศกรีกเพราะทหารของซีซาร์เป็นทหารที่ชำนาญการศึกเป็นที่น่าเกรงขามสุด
ๆ แล้วในยุคนั้น
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นที่มาของสำนวนคำว่า
“Crossing
the Rubicon” ที่หมายถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ ๆ ที่เด็ดขาดแบบเดินหน้าไปไม่คิดถอยหลังกลับและต้องพร้อมรับกับผลทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
เชื่อว่าหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงเคยผ่านสถานการณ์ที่เป็น
Crossing
the Rubicon กันมาบ้างใช่ไหมครับ
ข้อคิดในเรื่องนี้คือก่อนที่จะตัดสินใจข้ามแม่น้ำรูบิคอนคือไม่ควรตัดสินใจในตอนที่เราขาดสติ
กำลังเซ็ง กำลังท้อ กำลังเศร้า หรือกำลังโกรธ
หรือตัดสินใจในขณะที่สุขภาพจิตเราไม่ปกติ
เพราะการตัดสินใจนี้อาจเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาลก็เป็นได้