วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ข้อมูล..สิ่งสำคัญก่อนที่จะตั้งคำถาม


            อาจจะด้วยอาชีพของผมที่จะต้องตอบคำถามของผู้คนไม่ว่าจะเป็นคำถามในห้องอบรม หรือคำถามทางโทรศัพท์บ้างอีเมล์บ้างซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

            ถ้าเป็นการตอบคำถามในห้องอบรมหรือการการพูดคุยเห็นหน้าเห็นตากันแบบ Face to Face ก็คงไม่มีปัญหาที่จะคุยกันในวันนี้หรอกครับเพราะพอจะรู้ว่าคนถามคิดยังไงต้องการอะไรจากสีหน้าและแววตา ยังพอจะซักไซร้ไล่เรียงเรื่องราวกันได้

            เรื่องที่จะเอามาแชร์กันในวันนี้ก็คือคำถามทางอีเมล์หรือโทรศัพท์มาถามนี่แหละ

            ลองอ่านตัวอย่างคำถามนี้ดูสิครับ....

          “ตอนนี้หนูเป็นพนักงานชั่วคราวตามสัญญาจ้างคราวละ 1 ปี หนูทำงานที่บริษัทนี้มาได้ 3 ปีเศษแล้ว ทางบริษัทแจ้งว่าจะบรรจุหนูเป็นพนักงานประจำ หนูควรจะต่อรองเงินเดือนและสวัสดิการยังไงดีคะ หนูควรจะเรียกเงินเดือนประมาณเท่าไหร่ และหนูจะได้สิทธิอะไรบ้าง จะได้สวัสดิการเรื่องกองทุนฯไหม....ฯลฯ”

            มีใครที่ตอบคำถามนี้ได้บ้างไหมเอ่ย?

            เราจะหวังคำตอบที่มีคุณภาพจากคำถามที่ไม่มีคุณภาพได้ยังไงล่ะครับ ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของคำถามก็คือ “ข้อมูล”

            อยากจะบอกว่าวันนี้เป็นโลกของข้อมูลใครที่มีข้อมูลที่เพียงพอหรือมีข้อมูลที่สมบูรณ์ก็จะได้เปรียบเสมอในการแก้ปัญหาและตัดสินใจ

            จากคำถามข้างต้นถามว่าต้องการข้อมูลอะไรประกอบบ้างล่ะ....เช่น

1.      เงินเดือนปัจจุบันของผู้ถามตอนที่เป็นพนักงานชั่วคราวเท่าไหร่
2.      มีการทดลองงานกันใหม่อีกครั้งหรือไม่ หลังทดลองงานจะมีการปรับเงินเดือนขึ้นอีกหรือไม่
3.      มีระเบียบของบริษัทในเรื่องเหล่านี้บ้างหรือไม่, ระเบียบเขียนว่าไว้ยังไงบ้าง
4.      เงินเดือนของพนักงานประจำในตำแหน่งนี้ทางบริษัทของผู้ถามเขาตั้งไว้เท่าไหร่
5.      บริษัทนี้มีการจ่ายเงินประเภทอื่นที่นอกเหนือจากเงินเดือนอีกหรือไม่ เช่น เบี้ยขยัน, ค่าครองชีพ ฯลฯ
6.      บริษัทนี้มีการจ่ายโบนัสหรือไม่ โบนัสจ่ายตามผลงานหรือเป็นแบบคงที่เฉลี่ยจ่ายปีละกี่เดือน
7.      สวัสดิการต่าง ๆ ของตำแหน่งงานนี้มีอะไรบ้าง

หรือนอกจากนี้ยังมีข้อมูลอะไรที่จะบอกผมเพิ่มเติมอีกบ้างหรือไม่?

เพราะถ้าจะให้ผมตอบคำถามข้างต้นโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลยก็คงไม่ต่างกับการนั่งเทียนตอบ
แบบจิตสัมผัสแหละ

และถ้าตอบแบบจิตสัมผัสอย่างงี้จะมีประโยชน์อะไรกับคนถามไหมล่ะครับ?

            หรือผมว่าคำถามข้างต้นควรไปถามกับทาง HR ของบริษัทผู้ถามจะดีกว่าหรือไม่แทนที่จะมาถามคนนอกบริษัทซึ่งเขาไม่ได้มีข้อมูลภายในของบริษัท?

นี่ยังไม่รวมคำถามที่มาบ่อยๆ ประเภทที่ว่า....

“ทำไมทำโอทีแล้วบริษัทไม่จ่ายค่าโอ(ที)”

            ผมก็ต้องถามย้อนกลับไปว่า “แล้วระเบียบเรื่องการเบิกจ่ายโอทีของบริษัทคุณเป็นยังไงมีเงื่อนไขอะไรบ้าง คุณทำโอทีตามคำสั่งของหัวหน้าหรือคุณทำงานไปเองโดยเข้าใจว่าหัวหน้าอยากให้ทำ มีการทำเรื่องขอทำโอทีให้หัวหน้าอนุมัติก่อนหรือไม่ ฯลฯ"

            ถ้าไม่มีข้อมูลเหล่านี้ผมจะตอบคำถามได้ยังไงล่ะครับว่าทำไมคนถามทำโอทีแล้วไม่ได้โอที?

            นี่แหละครับปัญหาของคนตอบคำถามที่มักจะเจออยู่เสมอ ๆ

            คือใจน่ะอยากจะตอบนะครับ แต่พอมีแต่คำถามแล้วไม่มีข้อมูลมาให้เลยนี่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเหมือนกัน

            ก็เลยขอฝากข้อคิดปิดท้ายเรื่องนี้สำหรับคนที่จะตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบจากผู้อื่นคือ....

          เราจะหวังคำตอบที่มีคุณภาพจากคำถามที่ไม่มีคุณภาพ (เพราะขาดข้อมูล) ได้ยังไงล่ะครับ

………………………………….