วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างเงินเดือนแบบง่าย ๆ (ตอนที่ 6)


            ในตอนที่แล้วเราทำความเข้าใจในเรื่องของค่าความห่างระหว่าง Min ถึง Max ที่เรียกว่า Range Spread และความหมายของ Range Spread ไปแล้ว

            ในตอนที่ 6 นี้เราก็มาพูดกันต่อในเรื่องของ Midpoint Progress ดังนี้ครับ

Midpoint Progress-MPP เส้นที่เชื่อมระหว่าง Midpoint ต่อ Midpoint

            Midpoint Progress หรือบางตำราอาจจะเรียกว่า Progression Rate เป็นค่าที่บอกความเชื่อมโยงระหว่างกระบอกเงินเดือนหนึ่งไปสู่อีกกระบอกเงินเดือนหนึ่ง

            เพื่อให้ท่านเข้าใจง่ายยิ่งขึ้นผมขอนำเอารูปโครงสร้างเงินเดือนกลับมาให้ดูอีกครั้งดังนี้ครับ

            จากรูปข้างต้นท่านจะเห็นเส้นที่ลากเชื่อมตรงค่ากลาง (Midpoint) ระหว่างกระบอกเงินเดือนแต่ละกระบอก เช่น กระบอกเงินเดือนใน Job Grade1 ไป กระบอกเงินเดือนเงินเดือนใน Job Grade2 มีค่าเท่ากับ 35% หรือเส้นที่ลากเชื่อมระหว่าง Midpoint กระบอกที่2 ไปกระบอกที่3 เท่ากับ 30% เป็นต้น

            ค่าของ MPP บอกอะไรกับเรา?

            ค่า MPP เป็นตัวบอกว่าถ้าหากบริษัทจะมีการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote พนักงานให้เลื่อนตำแหน่งเลื่อนระดับชั้นสูงขึ้นไปใน Job Grade ถัดขึ้นไป บริษัทจะมีต้นทุนในการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote มากหรือน้อยแค่ไหน

            ถ้าค่า MPP มีมากเช่นมีค่า 45, 50, 55, 60 เปอร์เซ็นต์มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็แปลว่าบริษัทจะมีต้นทุนในการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote พนักงานเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ในขณะที่พนักงานที่ได้รับการ Promote ก็จะชอบนะครับ โธ่..เงินนี่ครับใครไม่อยากได้ล่ะยิ่งปรับเพิ่มให้เยอะยิ่งดี (ในมุมคิดของพนักงาน) ใช่ไหมครับ ดังนั้นถ้าค่า MPP มีมากก็จะจูงใจให้พนักงานอยาก Promote มาก

            แต่ถ้าค่า MPP น้อยลง เช่น 25, 20, 15, 10 เปอร์เซ็นต์ลดลงไปเรื่อย ๆ ก็จะแปลกลับกันกับข้างต้นคือบริษัทจะมีต้นทุนในการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote น้อยลงเพราะโอกาสที่พนักงานจะได้รับการปรับเงินเดือนน้อย ก็ลองคิดดูสิครับว่าถ้าค่าของ MPP ลดลงก็แปลว่า Midpoint ของกระบอกเงินเดือนถัดไปจะใกล้เคียงกับ Midpoint ของกระบอกเงินเดือนก่อนหน้าจริงไหมครับนั่นก็แปลว่าโอกาสที่พนักงานจะได้รับการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote ลดลงตามไปด้วย 

             ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานที่ถูก Promote จะไม่ชอบ (ก็โอกาสได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นน้อยลงนี่ครับ) และจะไม่จูงใจพนักงานที่ถูก Promote มากเท่าไหร่ ก็งานและความรับผิดชอบมากขึ้นแต่ได้รับการปรับเงินเดือนน้อย หรือเผลอ ๆ ไม่ได้รับการปรับนี่ใครอยากจะทำงานล่ะครับ

            โดยทั่วไปแล้วค่าของ MPP ควรจะอยู่ระหว่าง 25-45%

            มาถึงตรงนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าเราจะคำนวณหาค่า MPP ได้ยังไง?

            MPP = MP กระบอกที่สูงกว่า – MP กระบอกที่ต่ำกว่า หาร MP กระบอกที่ต่ำกว่า  คูณ 100

            ยกตัวอย่างการหา MPP ของกระบอกเงินเดือน1 ไปยังกระบอกเงินเดือน2 ตามตัวอย่างข้างต้นคือ

            MPP  =  ((29,768-22,050)/22,050) *100    =   35%
                
          ผ่านไปแล้วสำหรับเรื่องของ Midpoint Progress แล้วนะครับ ในตอนต่อไปผมจะนำท่านไปทำความเข้าใจถึงค่าอีกตัวหนึ่งที่สำคัญมากคือค่าที่บอกว่าในการทำโครงสร้างเงินเดือนแต่ละกระบอกจะสามารถแข่งขันกับตลาดได้มากน้อยแค่ไหน และกระบอกเงินเดือนนั้นจะใช้ได้ดีหรือไม่

            อดใจรอตอนต่อไปนะครับ

………………………………….