ผมเคยเขียนเรื่อง
“พนักงานเล่น LINE
ในเวลางาน..ทำยังไงดี” ไปเมื่อประมาณปี 2556 (ใครอยากจะอ่านอีกครั้งก็พิมพ์หาคำ
ๆ นี้ลงในกูเกิ้ลได้นะครับ) ซึ่งผมก็ตอบคำถามของหัวหน้าที่ถามมาว่าพนักงานเล่น LINE
ในเวลางานควรจะทำยังไงไปแล้ว
แต่มาวันนี้คำถามกลับเป็นของทางฝั่งพนักงานบ้างว่าหัวหน้าตั้งกลุ่ม
LINE แล้วสั่งให้ลูกน้อง Add เข้ากลุ่มแล้วหัวหน้าก็สั่งงานผ่าน
LINE กลุ่มบ้าง หรือสั่งงานไปที่ลูกน้องโดยตรงเป็นรายบุคคลบ้าง
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือลูกน้องแต่ละคนก็มี
LINE ส่วนตัวอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อน กลุ่มญาติ กลุ่ม ฯลฯ
แล้วยังต้องมามีกลุ่ม LINE ที่ทำงานอีก ซึ่งก็ไม่ได้มีกลุ่มเดียวนะครับบางแห่งก็เป็นกลุ่มฝ่าย
กลุ่มส่วน กลุ่มแผนก ฯลฯ ย่อยลงไปอีกหลายกลุ่ม
อ่านกันไม่หวาดไม่ไหวและทางฝั่งลูกน้องก็รู้สึกว่าหัวหน้าหรือบริษัทไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลของลูกน้อง
ใครเจอปัญหาทำนองนี้บ้างครับ
?
โชคดีที่ตอนผมทำงานประจำยังไม่มี
LINE ใช้เหมือนอย่างตอนนี้แต่พอมาเจอคำถามนี้และถามว่าผมมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้
(คือเห็นด้วยไหมว่าหัวหน้าควรใช้ LINE ในการสั่งงานลูกน้อง) แถมมีการยกตัวอย่างของมุมมองของหัวลูกน้องและมุมมองของหัวหน้ามาให้ผมดูอีกดังนี้
มุมมองลูกน้อง : ทำไมต้องมีการทำงานผ่าน
LINE รบกวนความเป็นส่วนตัว แม้แต่อยู่ในห้องน้ำหัวหน้าก็ยังLINE
มารังควาญตามงาน ไปต่างจังหวัดไม่มีสัญญาณเน็ตไม่ตอบ LINE หัวหน้าก็โดนด่า กำลังขับรถอยู่ยังไม่ตอบ LINE ก็โดนว่า
ทำให้ไม่มีสมาธิทำงาน งานด่วนก็โทรสั่งงานได้ก็ไม่โทร
งานไม่ด่วนก็มีอีเมล์ทำไมไม่ใช้ ฯลฯ
มุมมองหัวหน้า
:
ติดต่อกันได้รวดเร็วแบบ Real time ไม่ต้องเปลืองค่าโทรประหยัดค่าใช้จ่ายบริษัท
ทุกคนมีสมาร์ทโฟนอยู่แล้วเพิ่มกลุ่มไปอีกสักหน่อยก็จะทำให้งานรวดเร็วขึ้นจะเป็นไรไป
เช็ค Location ที่ลูกน้องไปทำงานได้ว่าไปจริงหรือเปล่า
ถ่ายรูปหน้างานส่งมาทาง LINE ได้รวดเร็วทันที ติดต่อผ่านอีเมล์ก็ไม่รู้ว่าลูกน้องเปิดอ่านหรือยังใช้ไลน์น่ะรู้เลยว่าลูกน้องอ่านหรือเปล่า
ฯลฯ
อ่านแล้วก็เห็นว่าต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง
แต่ถ้าจะถามผม ๆ
ก็ต้องคิดเชิงบวกไว้ก่อนโดยเชื่อว่าทั้งหัวหน้าและลูกน้องต่างก็อยากจะทำงานให้ดีกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อเป็นอย่างงี้แล้วผมว่าทั้งหัวหน้าและลูกน้องทำใจร่ม
ๆ แล้วลองมานั่งคุยกันดูแล้วหาเหตุหาผลเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันดีไหมครับว่าเราควรจะใช้
LINE ในการทำงานดีหรือไม่ (ถ้ายังคุยกันได้อย่างเปิดใจนะครับ)
ไม่ได้หมายความว่าพอหน่วยงาน
A สรุปกันว่าในหน่วยงานควรใช้ LINE ในการทำงาน
แล้วก็เลยเป็นข้อสรุปในบริษัทเราเสียเลยว่าถ้างั้นทุกหน่วยงานก็ต้องใช้ LINE
ในการทำงานเหมือนกับหน่วยงาน A เพราะทีหน่วยงาน
A ยังใช้ LINE กลุ่มในการทำงานเลย หน่วยงานอื่นก็ต้องใช้
LINE ได้เหมือนกัน....ไม่ควรเทียบบัญญัติไตรยางค์แบบนั้นนะครับ
ผมว่าแต่ละหน่วยงานคงจะต้องดูตามเหตุและผลแบบหน่วยงานใครหน่วยงานมันนะครับว่าจากลักษณะงานของแต่ละหน่วยงานมันจำเป็นต้องใช้
LINE ในการทำงานหรือไม่ ถ้าใช้แล้วจะมีผลดีหรือผลเสียกับการทำงานหรือการทำงานของหน่วยงานมากกว่ากัน
ต้องเอาความจำเป็นของงานเป็นตัวตั้ง
พูดคุยกันด้วยเหตุผลไม่ใช่เอาอารมณ์ความรู้สึกหรือความอยากของหัวหน้าหรือไม่อยากของลูกน้องเป็นตัวตั้งนะครับ
ถ้าผมยังทำงานประจำอยู่ผมก็คงจะต้องประชุมทีมงานแล้วมาหาข้อสรุปร่วมกันแบบนี้แหละครับ
(ในตอนทำงานประจำผมชอบใช้วิธีนี้เสมอ ๆ
เพราะหลายครั้งผมพบว่าไอเดียลูกน้องบางคนน่าสนใจและเสนอแนะอะไรดี ๆ
ให้ผมได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก ผมเลยไม่ชอบการสั่งงานให้ลูกน้องทำแบบ One way ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน กะทันหัน ผมชอบวิธีช่วยกันคิดแล้วสรุปร่วมกันมากกว่าการสั่งให้ทำครับ)
หรือถ้าใครมีไอเดียหรือมีทางออกอะไรดี
ๆ ในเรื่องนี้ก็แชร์กันมาดูนะครับ
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นำไปใช้ต่อไป
………………………………………….