ในตอนที่แล้วผมพูดถึงกระบวนการจัดการกับ
Talent ที่ประกอบด้วย
4 ขั้นตอนตั้งแต่การสรรหาคัดเลือก Talent, การพัฒนา Talent, การใช้งาน Talent และการธำรงรักษา Talent กันไปแล้ว
ในตอนนี้เรามาดูกันต่อว่าปัญหาในการพัฒนา Talent ที่องค์กรต่าง
ๆ เขาพบเจอน่ะมีอะไรบ้าง ดังนี้ครับ....
1.
ปัญหาในการพัฒนา Talent
ในเรื่องนี้เรามาคุยกันเรื่องของปัญหาในการพัฒนา Talent ในเรื่องหลัก ๆ
ว่ามีปัญหาอะไรกันบ้างดังนี้ครับ
1.1
ปัญหาด้านนโยบาย แบ่งออกเป็น
1.1.1
นโยบายไม่ชัดเจน ขาดเป้าหมายหรือตัวบุคคลหรือหน่วยงานที่จะรับผิดชอบโครงการนี้
ดังนั้นถ้าจะทำโครงการนี้ก็แปลว่าฝ่ายบริหารระดับสูงเห็นความสำคัญจริง ๆ
และเปิดไฟเขียวเดินหน้า
กำหนดตัวผู้รับผิดชอบโครงการให้ชัดเจนไม่ใช่ปล่อยให้เป็นงานฝาก
หรือเป็นโครงการแบบมือสมัครเล่นทำไปเป็นแฟชั่น
1.1.2
ขาดแผนงาน การกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมายของโครงการอย่างชัดเจน
คือไม่มีการกำหนดตัวชี้วัดผลสำเร็จและเป้าหมายเพื่อให้มีการติดตามโครงการได้อย่างเป็นรูปธรรม
อย่างนี้โครงการก็สะเปะสะปะไปตามเรื่องตามราวเหมือนนำเรือออกจากฝั่งโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไปที่ไหนก็มีหวังหลงทางกลางทะเลนั่นแหละครับ
1.1.3
นโยบายไม่ต่อเนื่อง เช่น MD คนปัจจุบันสนับสนุนโครงการ
Talent อย่างเต็มที่ แต่พอ MD คนปัจจุบันเกษียณหรือลาออกไป
MD คนใหม่มาก็ไม่เห็นความสำคัญก็เลยไม่สนับสนุนเต็มที่เหมือนคนเก่า แถมยังตัดงบประมาณออกอีกเพียบอย่างนี้ก็มีปัญหาแล้วล่ะครับ
1.2
ผู้บริหารระดับรอง ๆ ลงจาก MD มาไม่ให้ความร่วมมือ เช่น MD ให้ HR เป็นเจ้าของโครงการแต่หัวหน้าของ
Talent ไม่ร่วมมือในการทำหน้าที่ Coach ให้กับ Talent แถมหัวหน้าบางคนยังอิจฉาริษยา Talent
แล้วใช้วาจาเป็นอาวุธคอยติเตียนถากถาง
Talent อยู่บ่อย ๆ
เมื่อฝ่ายบริหารรู้ว่ามีปัญหาทำนองนี้ก็ไม่ทำอะไรกับผู้บริหารที่ไม่ให้ความร่วมมืออย่างนี้โครงการนี้ก็ไปไม่รอดเหมือนกันนะครับ
1.3
ปัญหาในระหว่างการพัฒนา Talent ในเรื่องนี้ที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
1.3.1
การสรรหาคัดเลือก Talent มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ใช้เส้นสายดันลูกน้องที่ยังไม่ใช่
Talent ตัวจริงเข้ามาในโครงการ
ซึ่งเรื่องนี้มักเกิดจากบางองค์กรขาดการทดสอบที่มีมาตรฐานในการคัดเลือก Talent ก็เลยใช้ดุลพินิจหรือใช้ความรู้สึกของผู้บังคับบัญชาในการเสนอชื่อลูกน้องคนโปรดเข้ามาเป็น
Talent ทั้งที่ยังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอ
1.3.2
ไม่มีมาตรการจัดการกับ Talent ที่มีปัญหาในระหว่างการพัฒนาอย่างชัดเจน เช่น Talent ที่ไม่เข้าอบรมแต่ฝากเพื่อนเซ็นชื่อแทนกันเพื่อไม่ให้เสียประวัติว่าขาดการอบรม,
เมื่อ Talent ได้รับมอบหมายงานมาทำกลับเอางานนั้นไปให้ลูกน้องทำให้แล้วก็เอามานำเสนอเป็นงานของตัวเอง,
ในการทดสอบข้อเขียนในห้องอบรมก็ลอกคำตอบกันเหมือนนักเรียนลอกข้อสอบซึ่งเป็นพฤติกรรมทุจริตโดยที่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ไม่กล้ารายงานหรือทำอะไรเพราะตำแหน่งต่ำกว่า
Talent ฯลฯ ดังนั้น องค์กรจึงไม่ควรวัดผลสัมฤทธิ์ของ Talent
ในระหว่างการพัฒนาด้วยการทดสอบข้อเขียนเหมือนนักเรียนทำข้อสอบแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ
แต่ควรจะต้องติดตามประเมินพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ Talent บางคนเหล่านี้และคัดกรองคนเหล่านี้ออกจาก
Talent Pool อีกด้วยนะครับ เพราะถ้าไม่มีมาตรการดังกล่าว
ในอนาคตองค์กรนั้นก็จะมีแต่ผู้นำองค์กรที่ทุจริตเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์,
ทำงานเอาหน้าโดยอาศัยผลงานของลูกน้อง ฯลฯ ในที่สุดครับ
1.3.3
งบประมาณในการพัฒนา Talent ไม่ต่อเนื่อง อันนี้คงเข้าใจได้ดีนะครับ
เพราะผมอธิบายไปข้างต้นแล้วว่าการพัฒนา Talent ไม่ได้พัฒนากันแค่ปีสองปี แต่ต้องพัฒนาระยะยาว
ดังนั้นถ้างบประมาณไม่ต่อเนื่องก็เหมือนกับส่งลูกเรียนหนังสืออยู่ดี ๆ
พอมาวันหนึ่งก็เอาออกจากโรงเรียนเสียดื้อ ๆ ยังไงยังงั้นแหละครับ
1.3.4
ไม่มีการประเมินทบทวนผลงานของ Talent รวมถึงมีการแจ้งผล (Feedback) อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ Talent เองก็จะไม่ทราบว่าตนเองมีข้อบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขยังไงบ้าง
ซึ่งเรื่องนี้จะเกี่ยวกับข้อ 7.2 โดยตรงเลยครับ
คือต้องมีแผนงานและตัวชี้วัดตลอดจนเป้าหมายในการพัฒนา Talent ที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นเสียก่อนครับ
เมื่อได้ทราบถึงปัญหาที่มักพบเจอในการพัฒนา
Talent กันไปแล้ว
ในตอนหน้าเราก็จะมาสู่บทสรุปของ Talent กันในตอนสุดท้ายที่ว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้
Talent ที่เราอุตส่าห์ลงทุนลงแรงเสียเวลาเลี้ยงดูฟูมฟักพัฒนามาเป็นอย่างดีถึงไม่อยู่กับองค์กรของเรา
อย่าพลาดนะครับ
.........................................