ในตอนที่แล้วผมได้เล่าให้ท่านฟังถึงการเตรียมความพร้อมของคนที่ทำงาน HR
ว่าควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อรับกับยุค AEC ในปี 2558 นี้ ซึ่งก็เล่าไปได้ 3 ข้อ เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมขอพูดถึงข้อต่อมาเลยนะครับ
4. คนทำงาน HR
ควรจะต้องรู้ เข้าใจ และใช้ IT ได้อย่างชำนาญ
บางคนอาจทำหน้าฉงนสงสัยว่าเอ๊ะ ! ก็เมืองไทยของเราก็ใช้คอมพิวเตอร์กันไม่น้อยแล้วนี่นา
แม้แต่เด็กป.1 ก็ยังได้รับแจก Tablet ใช้เรียนกันแล้วทำไมคน
HR ยังไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง IT อีกหรือ
?
ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นเสียทีเดียว
จริงอยู่ที่หลายองค์กรมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ แต่เราใช้คอมพิวเตอร์ทำอะไรครับ ?
บางคนก็ใช้คอมพิวเตอร์แทนเครื่องพิมพ์ดีดคือพิมพ์งานที่เป็นเอกสารเข้าไฟล์เพื่อที่จะสั่งให้เครื่องพิมพ์ทำการพิมพ์ไฟล์นั้นออกมาเป็นกระดาษเพื่อนำส่งผู้บริหารหรือหน่วยงานอื่น
ๆ กันต่อไป หรือจะเรียกว่าแปลงดิจิตอลกลับเป็นอนาล็อกก็ได้ จากข้อมูลของ www.thai-aec.com พบว่าประเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์สูงสุด
5 อันดับแรกคือ 1. สิงคโปร์ 2. บรูไน 3. มาเลเซีย 4. เวียดนาม
และ 5. ฟิลิปปินส์ ส่วนไทยยังไม่ติด 5 อันดับแรกเลยนะครับ
ดังนั้นคนที่ทำงาน
HR ควรจะต้องคิดหาวิธีใช้คอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์มากขึ้นหรือไม่ เช่น
4.1 คอยเข้าไป Search ดูข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ
จากเว็บไซด์ที่เป็นชุมชนออนไลน์ของคนทำงานที่มีอยู่หลาย ๆ
เว็บเพื่อจะได้หาช่องทางติดต่อเข้าไปที่แหล่งงานนั้น ๆ โดยตรง
แทนที่จะไปหาผู้สมัครงานแบบเดิม ๆ โดยคิดแต่ละลงโฆษณารับสมัครงานในหน้าหนังสือพิมพ์เพียงอย่างเดียวหรือไม่
4.2 หาวิธีลดงานกระดาษ (Paper
Work) โดยการนำ Software ด้าน HR หรือที่เรียกว่า HRIS (Human Resource Information System) มาใช้แทนการเก็บข้อมูลพนักงานในด้านต่าง ๆ ที่ยังเป็นแฟ้มกระดาษ, การประเมินผลต่าง
ๆ ผ่านระบบ IT ที่ไม่ต้องใช้แบบฟอร์มกระดาษ, การลาแบบ On
Line โดยไม่ต้องใช้กระดาษ, การสมัครงานผ่านเว็บไซด์ของบริษัท,
การให้ผู้สมัครงานอัดคลิปนำเสนอตัวเองเพื่อสมัครงาน, การสัมภาษณ์โดยใช้ Face
time ในกรณีอยู่ไกลกัน ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้งานสะดวกรวดเร็วขึ้น
เรียกค้นข้อมูลง่ายลดเวลาการทำงานลงเพื่อเอาเวลาไปทำประโยชน์อื่นที่ดีกว่านี้
4.3
เพิ่มทักษะความชำนาญในการใช้ซอฟแวร์ต่าง ๆ ให้มากขึ้น
โดยสนใจใฝ่เรียนรู้และนำซอฟแวร์ที่น่าสนใจมาประยุกต์ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ของ HR
พูดง่าย ๆ ว่า HR
ควรจะต้องออกจากมุมเดิม ๆ ในเรื่องงานเอกสารกองกระดาษมาสู่โลก IT
ได้แล้วครับ
5. HR ควรเป็นคู่คิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) กับฝ่ายบริหารอย่างจริงจัง
อันที่จริงแล้วคำว่า “คู่คิดเชิงกลยุทธ์” นี้มีมานานแล้วล่ะครับ
แต่ก็อาจจะยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนนัก เพราะในหลาย ๆ องค์กร HR ก็เป็นเพียง “ผู้ทำตามสั่ง” มากกว่า แต่ในโลกการแข่งขันระดับภูมิภาคแบบ AEC
ผมว่าฝ่ายบริหารก็น่าจะต้องหันกลับมาปรึกษาหารือกับ HR ให้มากขึ้น ในขณะที่คนทำงาน HR ก็ควรจะต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
และเตรียมความพร้อมของตัวเองให้มากขึ้นอย่างที่ผมบอกไปแล้วก่อนหน้านี้ในหลาย ๆ
เรื่องเพื่อให้ฝ่ายบริหารเกิดการยอมรับในตัว HR ด้วยเหมือนกัน
ในมุมมองของผมนั้น HR ควรจะต้องเกี่ยวข้องงานด้าน Strategic
Partner ดังต่อไปนี้
5.1 รับรู้และเข้าใจใน Business Plan ของบริษัท (ซึ่งก็ต้องเกิดจากการที่
HR จะต้องมีความรู้ในธุรกิจที่ดีเสียก่อนที่ผมพูดไปแล้วในข้อที่
1 ตอนที่แล้ว) คือทราบทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัทโดยเข้าร่วมประชุม
และรับทราบนโยบายทางธุรกิจเพื่อนำมาสู่การคิดและวางแผนบุคลากรในด้านต่าง ๆ
5.2
วิเคราะห์และนำเสนอแผนอัตรากำลัง/แผนการสรรหาคัดเลือกบุคลากร
5.3 วางแผนและนำเสนอกลยุทธ์ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สามารถแข่งขันได้
5.4 นำเสนอการประเมินผลการปฏิบัติงานที่วัดผลงานได้ชัดเจน
และนำผลการปฏิบัติงานไปใช้ในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท
5.5 วางแผนและนำเสนอแนวทางในการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบ
5.6 วางแผนและนำเสนอแนวทางปฏิบัติด้านแรงงานสัมพันธ์
6. หาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของเศรษฐกิจ,
สังคม, การเมือง, วัฒนธรรม ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ของประเทศในกลุ่มอาเซียนอยู่เสมอ ๆ
ข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้นำมาปรับปรุงแผนงานต่าง
ๆ ของบริษัทให้มีความพร้อม และช่วยในการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
ได้อย่างทันสถานการณ์ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วเดี๋ยวนี้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
มีความรวดเร็วอยู่ที่ใครจะเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราและองค์กรได้เร็วกว่าพร้อมทั้งนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ได้ดีกว่ากัน
โดย HR
ยุคใหม่ควรจะต้องรู้จักการท่องเว็บ และ Search หาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ ๆ รวมถึงต้องเข้าสัมมนา
อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังข่าวเพื่อ Update ตัวเองด้วยนะครับ
ว้า
! หมดโควต้าอีกแล้ว คงต้องต่อในตอนหน้าซึ่งเป็นตอนที่ 3 ว่า HR ควรจะต้องปรับตัวเพื่อรับกับ AEC อย่างไร ซึ่งคงจะจบครบถ้วนในตอนหน้านี่แหละครับ
..........................................