วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ช่างที่จบระดับปวส.จะเปลี่ยนชื่อตำแหน่งเป็นวิศวกรได้หรือไม่ เพราะมีความสามารถมากกว่าวิศวกร ?

คำถาม

            บริษัทมีนโยบายขึ้นเงินเดือนประจำปีตามความสามารถและผลงานโดยไม่คำนึงถึงวุฒิการศึกษา ซึ่งมีพนักงานจบปวส.ทำงานมานานจึงมีผลงานความสามารถและประสบการณ์มากกว่าวิศวกรที่บริษัทจ้างมาจึงมีคำถามดังนี้

1.      สามารถเปลี่ยนชื่อตำแหน่งช่างที่จบปวส.รายนี้เป็นตำแหน่งวิศวกรได้หรือไม่

2.      หลักการขึ้นเงินเดือนตามผลงานและความสามารถถูกต้องหรือไม่

ตอบ

            ผมขอตอบข้อ 2 ก่อนก็แล้วกันนะครับ

            ปัจจุบันการขึ้นเงินเดือนประจำปีก็จะพิจารณากันตามผลงานและความสามารถของพนักงานเป็นหลักอยู่แล้วในทุกองค์กร ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีเครื่องมือช่วยให้การประเมินผลการปฏิบัติงานมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นคือระบบของการกำหนดตัวชี้วัดหลัก หรือ KPIs (Key Performance Indicators) ที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ Balanced Scorecard หรือบางแห่งอาจจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า MBO (Management by Objectives) ก็ไม่ได้ผิดกติกาอะไร เพราะทั้งสองแบบเป็นวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยการมีตัวชี้วัดที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นถ้าบริษัทของคุณมีการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลงานและความสามารถที่มีตัวชี้วัดที่ผมบอกมานี้ก็เป็นหลักการที่ถูกต้องในปัจจุบันครับ

            ส่วนคำถามข้อ 1 ที่คุณบอกว่าช่างที่จบวุฒิปวส.ทำงานเก่งกว่าวิศวกรที่จบปริญญาตรีจนกระทั่ง MD อยากจะให้เปลี่ยนชื่อตำแหน่งช่างที่จบปวส.เป็นวิศวกรนั้น

          ถามว่า แล้ววิศวกรที่จบปริญญาตรีให้เปลี่ยนชื่อตำแหน่งไปเป็นช่างจะดีไหมครับ ?
           (ถามล้อเล่นน่ะครับ..ไม่ได้หมายความอย่างที่ถามหรอก)

            ผมอธิบายอย่างนี้นะครับ คนที่จบปริญญาตรีทางวิศวกรรมศาสตร์ที่ไปทำงานในตำแหน่งงานตรงกับวิชาชีพที่ตนเองจบมาก็มักจะเรียกกันว่า “วิศวกร” หรือในสมัยก่อนบางแห่งอาจจะเรียกว่า “นายช่าง” ก็เพราะทำงานโดยใช้วิชาชีพด้านวิศวกรรมในสาขาที่จบมาโดยตรง

          ส่วนผู้ที่ไม่ได้จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์มานั้น ผมยังไม่เคยเห็นที่ไหนตั้งตำแหน่งให้เป็นวิศวกรเลย

            ผมอยากจะให้คุณหาโอกาสทำความเข้าใจกับ MD ในเรื่องของผลงาน+ความสามารถของคน กับชื่อตำแหน่งหรือการเรียนจบคุณวุฒิใด ๆ นั้นเป็นคนละเรื่องกันนะครับ

            ยกตัวอย่างก็คือ....

            คนที่ทำงานดีทำงานเก่งไม่จำเป็นจะต้องจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือจบเกียรตินิยมก็ได้จริงไหมครับ

            หรือคนที่ทำงานดีไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตามถ้าเขาทำงานดีมีผลงาน มันก็ไม่เกี่ยวกับว่าเขาจะมีชื่อเรียกตำแหน่งเป็นอะไรนี่ครับ

          เพราะความสามารถในการทำงานของคนมันคือเรื่องของ “Competency” ยังไงล่ะครับ !

            ซึ่ง Competency ก็คือถ้าใครมีความรู้ (Knowledge) ที่ดีในงานที่รับผิดชอบได้อย่างที่องค์กรต้องการ (ซึ่งความรู้ในงานนี้ก็ไม่เกี่ยวกับความรู้ที่เรียนจบคุณวุฒิอะไรมานะครับ)

            ถ้าใครมีทักษะ (Skills) ในงานที่ดีและตรงกับที่องค์กรต้องการทักษะในงานเหล่านี้ หรือ

            ถ้าใครมีคุณลักษณะภายใน (Attributes) ที่เหมาะสมในงานที่ทำ เช่น ในงานนี้ต้องการความอดทน, ต้องการความละเอียดรอบคอบ, ต้องการ Service Mind แล้วคน ๆ นั้นก็มีคุณลักษณะภายในตรงกับที่องค์กรต้องการ

            สรุปง่าย ๆ ว่าถ้าใครมี ความรู้ (K)+ทักษะ (S)+คุณลักษณะภายใน (A) ตรงกับที่หน่วยงานและองค์กรต้องการแล้วล่ะก็คน ๆ นั้นก็มีสมรรถนะหรือความสามารถ หรือ Competency เหมาะสมกับงานนั้นนั่นเองครับ

            ในกรณีที่คุณถามมาก็พอจะบอกได้ว่าช่างที่จบปวส.มี Competency ตรงกับที่ MD ต้องการ ส่วนวิศวกรอาจจะยังขาด Competency (หรือจะเรียกว่ายังมี Competency Gap ก็ได้นะครับ) จึงทำให้ไม่สามารถจะทำผลงานออกมาได้อย่างที่ MD ต้องการ

            ซึ่งในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าช่างคนนี้จบปวส. หรือวิศวกรคนนี้จบปริญญาตรีวิศวะมาเลยจริงไหมครับ เพราะคนที่จบปวส.ด้านช่างมานั้นก็ไม่ได้แปลว่าจะทำงานได้เก่งเหมือนกับช่างคนนี้ทุกคน หรือทำนองเดียวกันวิศวกรที่เรียนจบปริญญาตรีวิศวะมาก็ไม่ได้แปลว่าจะทำงานได้ไม่เก่งเหมือนวิศวกรคนนี้ทุกคนเช่นเดียวกัน

          ดังนั้น เรื่องของความสามารถ (Competency) ในการทำงานจึงเป็นเรื่องของ “ปัจเจกบุคคล” หรือตัวใครก็ตัวคนนั้น ว่าเขามี K+S+A เหมาะตรงกับงานอย่างที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้นหรือไม่ต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับเรียนจบอะไรมา หรือได้เกรดเท่าไหร่มา หรือจบมาจากสถาบันไหน

            ผมจึงไม่เห็นความจำเป็นว่าทำไมจึงต้องเปลี่ยนชื่อตำแหน่งช่างที่จบปวส.เป็นวิศวกร หรือแม้จะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น ๆ ถ้าเขาทำงานดีก็ตอบแทนด้วยเรื่องการขึ้นเงินเดือนตามผลงานก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ หรือถ้าเขามีความสามารถในการบริหารจัดการได้ ต่อไปก็อาจจะพิจารณาเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าช่าง หรือเป็นผู้จัดการต่อไปในอนาคตได้จริงไหมครับ

            ผมเชื่อว่าเมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้น่าจะเป็นแนวทางให้คุณได้ไปคุยกับ MD เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้แล้วนะครับ
...............................................